เครื่องขยาย AC-DC TM-250MP3 ยี่ห้อ NPE
รหัสสินค้า : TM-250MP3
ราคา |
14.00 ฿ |
จำนวนที่จะซื้อ | |
ราคารวม | 14.00 ฿ |
สินค้าไม่เพียงพอ
สินค้าหมด
รายละเอียดสินค้า :
สามารถใช้งานได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งในห้องประชุม ห้องสัมมนาขนาดเล็ก ค็อฟฟี่ช็อป ระบบเสียงตามสาย ระบบประกาศ
• 250 วัตต์ พร้อมไลน์เอาต์พุต 70-100V
• อินพุทไมค์ 4 ช่อง
• อินพุท Aux 2 ช่อง
• USB, MP3, Bluetooth
• ชุดปรับแต่งเสียงทุ้ม,แหลม
• มีวงจรชุดป้องกันลำโพง
• Filter LINE 50 Hz,HORN 250 Hz
• ไฟแสดงสถาณะเปิดปิด,ระดับสัญญาณ
รายละเอียดทั้งหมด :
NPE TM-250MP3 / TM-250ZMP3 เพาเวอร์มิกเซอร์ 250W
NPE TM-250 Series เพาเวอร์มิกเซอร์กำลังขับ 250 วัตต์ มาพร้อมโมดูล MP3 ใช้งานง่าย ตอบโจทย์งานระบบเสียงตามสายทุกรูปแบบ
NPE TM-250MP3 เป็นเพาเวอร์มิกเซอร์ (Powered Mixer) เอนกประสงค์ รูปทรงเหมือนเครื่องขยายเสียงทั่วไป ขนาด 19 นิ้ว สามารถนำไปติดตั้งในตู้แร็คได้ แอมป์รุ่นนี้ผลิตที่โรงงาน NPE ตั้งอยู่ในไทย มั่นใจได้ในเรื่องการควบคุมคุณภาพการผลิต จุดเด่นของ TM-250MP3 และ TM-250ZMP3 มีโมดูล MP3 ซึ่งทั้งแอมป์ทั้ง 2 รุ่นนี้ถือว่าให้ลูกเล่นมาครบถ้วน ใช้งานพื้นฐานได้ครอบคลุมงานประกาศทุกประเภท
สำหรับ TM-250ZMP3 รหัส “Z” คือ Zone นั่นหมายถึงเครื่องขยายเสียงรุ่นนี้สามารถแยกประกาศเสียงเป็นโซนได้ เครื่องรุ่นนี้สามารถแบ่งการทำงานได้จำนวน 4 โซน และยังสามารถทำงานรวมกันทุกโซนได้ (All Zone) นอกจากนี้บนเครื่อง TM-250ZMP3 สามารถบันทึกสัญญาณเสียงผ่านช่อง USB ได้ อีกทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชัน Bluetooth อีกด้วย
NPE TM-250MP3 มีระบบไลน์โวลต์ในตัว กล่าวคือสามารถต่อประเภทของลำโพงได้มากกว่า 1 ประเภท แอมป์รุ่นนี้จึงไม่ได้รองรับเฉพาะโหลดอิมพีแดนซ์อย่างเดียว สิ่งที่ต้องระวังคือโหลดหรือลำโพงที่นำมาเชื่อมต่อจะต้องมีกำลังวัตต์ไม่เกินกำลังของเครื่องขยายเสียงรุ่นนี้ และควรเผื่อกำลังให้เพาเวอร์แอมป์ทำงานด้วย สายลำโพงที่นำมาใช้งานแนะนำขนาดไม่เกิน 1.0 mm2 หรือ 1.5-2.0 mm2 แต่ไม่ต้องถึงขั้นเบอร์ 3-4 mm2 เพราะมีขนาดใหญ่เกินไป ส่วนรุ่น TM-250ZMP3 สามารถต่อลำโพงแยกโซนได้ตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น
ด้านหน้าของ TM-250MP3
ด้านหน้าเครื่องประกอบด้วย ประกอบด้วยช่องเสียบไมค์แบบ TS หรือแบบอันบาลานซ์ พร้อมโวลุ่มปรับไมค์แต่ละตัวแบบอิสระ สามารถเชื่อมต่อไมค์ได้จำนวน 4 ตัว จาก 1 ใน 4 ช่องสามารถใช้เป็น Priority ได้ กล่าวคือช่องนี้จะใช้เมื่อต้องการพูดหรือประกาศไปพร้อมกับการเปิดเสียงเพลง
ช่องแรกของไมค์สามารถเปิดปิดไมค์เอง ทำงานในลักษณะ Auto Mute หรือในภาษาช่างเสียงเรียกว่า “Ducking” เป็นเอฟเฟ็กต์เสียงชนิดหนึ่ง ที่ใช้หลบเลี่ยงกันระหว่างเสียงพูดจากไมค์และเสียงเพลงที่กำลังเปิด นิยมใช้ในวงการวิทยุและสถานีเพลงป็อบ โดยเฉพาะเพลงแดนซ์ หลักการทำงานคือเมื่อระดับสัญญาณเสียงหนึ่งจะลดลงเมื่อสัญญาณอื่นทำงานอยู่
โดยทั่วไปแล้วในสถานีวิทยุสามารถทำได้โดยการลดระดับเสียงของเพลงลงเมื่อมีการเริ่มพูดแทรก กรณีเสียงพูดเป็น Priority และเสียงเพลงจะกลับมาดังอีกครั้งเมื่อหยุดพูด เอฟเฟ็กต์นี้มักใช้ในการผลิตรายการวิทยุเพื่อสร้างเสียงพากย์ในกการแปลภาษา เมื่อเสียงภาษาต่างประเทศดังขึ้น หากล่ามพูดแปลเป็นอีกภาษา เสียงต้นฉบับจะถูกปิดเสียงไปโดยปริยาย โดย Ducking จะทำงานทันทีที่มีการเริ่มแปลภาษา
ด้านหน้าของ TM-250ZMP3
อีกนัยหนึ่งเหมือนเราเปิดเพลงฟังในสวนอาหาร หรือในห้างสรรพสินค้า เมื่อมีเสียงพูดประกาศ ตัวเสียงเพลงจะค่อยๆ เบาลง เมื่อจบการประกาศเสียงเพลงก็จะค่อยๆ ดังขึ้น
ถัดไปด้านหน้ายังมีในส่วนของ AUX IN 1-2 มีไว้สำหรับเชื่อมต่อกับแหล่งกำเนิดเสียงประเภทเครื่องเล่น CD/DVD/คอมพิวเตอร์/มือถือ ภายนอก ช่องนี้มีลักษณะเป็น RCA และ TRS 3.5mm ส่วน MP3/AUX 2 ใช้ปรับสัญญาณเมื่อไม่มีการต่อสัญญาณผ่านช่อง TRS 3.5mm โดยมีโวลุ่มแยกปรับเสียงอิสระให้
ถัดไปจะพบ REC OUT เป็นช่องสำหรับต่ออุปกรณ์ภายนอกเพื่อนำสัญญาณไปใช้บันทึก
ถัดไป MASTER เป็นโวลุ่มควบคุมความดังของเครื่อง กรณีไม่เร่งโวลุ่มตัวนี้จะไม่มีเสียงดังออกทางฝั่งเอาต์พุตหรือออกทางลำโพงเลย ถัดไปภาค TONE CONTROL จะมีโวลุ่มควบคุมเสียงกลางแหลมและเสียงเบส ซึ่งระบุว่า TREBLE และ BASS ตรงนี้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งทุ้มแหลมของเสียงได้ตามความเหมาะสม
VU เป็นส่วนแสดงไฟสถานะ ON ติดสว่าง ใช้เช็คกรณีเครื่องมีปัญหา เช่นไฟฟ้าขัดข้องไฟจะกระพริบ และ LED ตำแหน่งอื่นๆ ใช้แสดงถึงระดับของสัญญาณขาออก รุ่น TM-250MP3 จะเรียงตัวในแนวนอน ส่วนรุ่น TM-250ZMP3 จะเรียงตัวในแนวตั้งอยู่ด้านข้างสวิตซ์ควบคุมโซน
ด้านหน้ามีสวิตซ์ปิดเปิดเครื่อง และมีช่อง USB สำหรับต่อกับแฟลชไดร์ฟเพื่อใช้เล่น MP3 โดยความจุต้องไม่เกิน 16 กิกะไบต์ รุ่น TM-250MP3 ด้านข้างพอร์ต USB จะมีปุ่มควบคุมการเล่น/การหยุดไฟล์ ปุ่มสวิตซ์กดเพื่อเล่นซ้ำไฟล์เดิมที่กำลังเล่นอยู่ ปุ่ม Rev/Volume Down กดหนึ่งครั้งเป็นการสั่งให้เล่นไฟล์ก่อนหน้า
หากกดค้างไว้จะเป็นการหรี่เสียงเพลงลง ปุ่ม For/Volume Up กดหนึ่งครั้งเป็นการสั่งให้เล่นไฟล์เพลงถัดไป หากกดค้างไว้จะเป็นการเพิ่มเสียงเพลงให้ดังขึ้น ส่วนรุ่น TM-250ZMP3 ปุ่มควบคุมจะอยู่ด้านล่างจอแสดงผล Bluetooth เช่น Mode Status, Detail Status ซึ่งเกี่ยวกับสถานะการทำงานในโหมดต่างๆ และการแสดงข้อความรายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์เพลง และอื่นๆ
TM-250ZMP3 มีสวิตซ์ Zone มีหน้าที่ใช้กดเพื่อเลือกโซนที่ผู้ใช้ต้องการ มีทั้งหมด 4 โซน ผู้ใช้สามารถเลือกแยกทีละโซนหรือเลือกใช้ทุกโซนได้
ช่อง AMP INSERT ใช้สำหรับ Insert สัญญาณจากภายนอก มักต่อเพื่อแทรกเอฟเฟ็กต์ภายนอกเข้ามา เช่นเอฟเฟ็กต์ EQ/Reverb ด้านบนของช่องจะมีสัญลักษณ์แจ็คหรือหัวต่อเป็นภาพให้รู้ OUT/IN/GND เพื่อให้ผู้ใช้ทราบว่าควรต่อสายสัญญาณแจ็คสำหรับช่องนี้อย่างไร ในช่องนี้จะทำหน้าที่ส่งและรับเอฟเฟ็กต์
ช่อง FILTER ผู้ใช้สามารถเลือกฟิลเตอร์ได้ ในรุ่น TM-250MP3 มีให้เลือก 2 ความถี่ สำหรับความถี่แรก จะใช้ลดทอนความถี่ต่ำลงประมาณ -3dB ที่ความถี่ 250 เฮิรตซ์ ส่วนรุ่น TM-250ZMP3 จะลดทอนความถี่ต่ำได้ 6dB ที่ความถี่ 180 เฮิรตซ์ สำหรับกรณีใช้ต่อกับลำโพงฮอร์น กรณีใช้งานปกติก็ไม่ต้องใช้ก็ได้ ช่องนี้จำเป็นในกรณีต้องการคัตย่านเสียงทุ้มออกไป เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อลำโพง อีกนัยหนึ่งคือจะทำหน้าที่เป็น High Pass Filter (ให้ความถี่สูงผ่านเท่านั้น)
สำรวจด้านหลังเครื่อง
ด้านหลังของ TM-250MP3
ด้านหลังฝั่งซ้ายมือสุดจะพบช่องต่อกับปลั๊กไฟฟ้า ขนาดแรงดัน 220V/50Hz มีฟิวส์ขนาด 3A จะพบช่องต่อกับลำโพง ถัดมาเป็นจุดต่อลำโพงแบบขันน็อตหางปลา กรณีรุ่น TM-250ZMP3 จะพบช่องต่อโซน (OUTPUT ZONE) เป็นช่องต่อระบบไลน์แยกแบ่งเป็นโซนซึ่งมีแรงดัน Line 100V ทำงานโดยผ่านการควบคุมสวิตซ์ด้านหน้าเครื่อง ส่วนรุ่น TM-250MP3 ธรรมดาจะมีช่องต่อ 70V/100V (LINE OUTPUT) และช่องต่อสำหรับลำโพงอิมพีแดนซ์ 8 Ohms (SPEAKER OUTPUT) อีก 2 ชุด รับอิมพีแดนซ์ได้ต่ำสุด 2 Ohms เป็นชนิดโมโน ด้านขวามือสุดเป็นพัดลมระบายความร้อนออกจากเครื่อง
ในการใช้งานควรเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หากเราต่อลำโพงแบบไลน์โวลต์แล้วไม่แนะนำให้ต่อแบบอิมพีแดนซ์ กรณีหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งไลน์โวลต์และอิมพีแดนซ์จะต้องมีกำลังวัตต์รวมกันไม่เกินกำลังของเครื่องขยายเสียง นั่นคือ 250 วัตต์ อันที่จริงเราขอแนะนำให้ 200 วัตต์ อีก 50 วัตต์เก็บไว้สำรองในกรณีเครื่องเกิดพีคขึ้นมา
ด้านหลังของ TM-250ZMP3
คุณสมบัติTM-250MP3TM-250ZMP3กำลังขับ250W250Wโมดูล MP3YesYesBluetoothNoYesไมโครโฟน44โซนNo4ปรับทุ้ม/แหลมTreble/BassTreble/Bassอิมพีแดนซ์2-8 Ohms2-8 Ohmsโวลต์ไลน์70/100V70/100Vน้ำหนัก12.6kg.13.06kg.
คุณสมบัติเฉพาะ
- ให้กำลังขับ 250 วัตต์ รับอิมพีแดนซ์ได้ตั้งแต่ 2-8 Ohms รองรับไลน์โวลต์ 70V/100V
- ต่อไมค์ได้จำนวน 4 ช่อง พร้อมฟังก์ชันปรับความดังแยกอิสระ สามารถปรับแต่งเสียงได้ 2 ช่วงความถี่ คือต่ำและสูง
- MIC 1 มีฟังก์ชันตัดเสียง MIC 2-4 และตัดเสียงดนตรีอัตโนมัติ เมื่อมีการใช้งาน MIC 1
- มาพร้อมเครื่องเล่น USB MP3 Player รุ่น TM-250ZMP3 มี Bluetooth ในตัว
- เครื่องขนาด 2U ติดตั้งใช้งานได้ทุกที่
- ในกล่องมีคู่มือการใช้งานให้ 1 ฉบับ และรุ่น TM-250ZMP3 มีคู่มือ MP3/Bluetooth พร้อมสาย AC แบบมีกราวด์ 1 เส้น และตัวเครื่องTM-250ZMP3 ต่อแยกเป็นโซนได้
สรุป
NPE TM-250MP3 และ TM-250ZMP3 เป็นเพาเวอร์แอมป์หรือเครื่องขยายเสียง ขนาด 250 วัตต์ เพาเวอร์มิกเซอร์ 2 รุ่นนี้สามารถใช้งานได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งในห้องประชุม ห้องสัมมนาขนาดเล็ก ค็อฟฟี่ช็อป ระบบเสียงตามสาย ระบบประกาศ ที่มีโหลดลำโพงรวมไม่เกิน 200-250 วัตต์ สามารถใช้ต่อกับลำโพงไลน์โวลต์ 70V/100V และลำโพงแบบอิมพีแดนซ์ได้
หากต้องการใช้งานทั่วไป ขอแนะนำให้เลือก TM-250MP3 กรณีต้องการลูกเล่น Zone ซึ่งเหมาะกับระบบประกาศเสียงตามสายแบบแยกโซนและฟังก์ชัน Bluetooth แนะนำให้เลือก TM-250ZMP3
เพาเวอร์แอมป์ทั้ง 2 รุ่นนี้ถือว่าให้คุณภาพเสียงดีพอสมควร ใช้งานง่าย ปรับแต่งง่าย ไม่มีอะไรยุ่งยาก